add sense

วันพุธที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2557

เรื่องของฟันคุด

แรกเริ่มรู้จักกับฟันคุด

ฟันคุด ทำไมฟันต้องคุดทำไมฟันถึงไม่ขึ้นมาเป็นปกติเหมือนฟันซี่อื่น เป็นสิ่งที่ย้ำคิดมาตลอดตั้งแต่รู้ตัวว่ามีฟันคุด สมัยยังเป็นนักศึกษาเห็นเพื่อนๆ ไปผ่าฟันคุดกันก็รู้สึกโชคดีที่เราไม่มีฟันคุดเหมือนคนอื่นเค้า ตอนจัดฟันสมัยมัธยมก็เคยเอ้กเรย์ทั้งปาก และถอนฟันบนไปข้างละซี่ก่อนจัดฟัน แต่ฟันล่างไม่ได้ถอน จัดฟันเสร็จก็ปกติดีมาจนอายุจะ 30 ถึงได้มาเจออีกทีว่าตัวเองมีฟันคุดโผล่มา

จากที่อ่านมาในเน็ตเค้าว่ากันว่าฟันเรามีเยอะเป็นเรื่องปกติเพราะเมื่อก่อนเรากินเนื้อต้องใช้ฟันบดเคี้ยว แต่พอวิวัฒนาการมาไม่ได้ใช้ขากรรไกรเลยเล็กลงบรรจุฟันนั้นไม่พอ ก็กลับมาคิดว่าเราก็เป็นคนชอบกินเนื้อนะ ทำไมขากรรไกรเราไม่ใหญ่ไปเลย แอบเซ็ง เพราะก็อ่านเจออีกว่าบางรายก็อาจจะไม่เป็นอันตราย แต่บางรายก็เป็น ซึ่งก็คือมีความเสี่ยงนั่นเอง แต่ก็ยังแอบภาวนาว่าอยู่ตรงนั้น ในเหงือกนั่นแหละ อย่าขยับมาข้างหน้าอีกนะ เจ้าฟันคุด

เวลาล่วงเลยมาหลังจากพบว่าตัวเองมีฟันคุด 2-3 ปี ฟันคุดของเราก็เริ่มโผล่ออกมาดูโลก มาเบียดๆฟันซี่เก่า ทั้ง 2 ข้าง และ 1 ข้างก็เริ่มมีเศษอาหารไปติด ต้องแปรงฟันออกทุกครั้งหลังอาหาร และทำให้มีกลิ่นปาก ประกอบกับถามราคาหมอที่ตรวจเจอ หมอบอกว่าประมาณ 2500 ทำให้ตัดสินใจยากขึ้นไปอีก เพราะมันก็เยอะมากสำหรับเรา ประกันบริษัทก็ให้ปีละ 1000 เดียวเอง เลยทำให้เกิดการเลื่อนมาเรื่อยๆ

ผ่ามันออกก็ได้เจ้าฟันคุด

จากปัญหากลิ่นปากที่เกิดขึ้น ประกอบกับการอ่านบทความอันตรายของฟันคุดในเนตมากมาย วันหนึ่งที่คิดว่าเอาวะ ปัญหาเยอะแยะในชีวิตมากมาย เวลาเครียดมันหนักกว่าอีก ผ่าฟันคุดแค่นี้ ประกอบกับลาพักร้อนกลับบ้านต่างจังหวัดยาวด้วย เผื่อเป็นอะไรขึ้นมายังมีคนดูแล ไม่ตายอยู่คนเดียวที่กรุงเทพ

ตัดสินใจได้ก็หาข้อมูลสถานที่ทำ ซึ่งก็ที่จังหวัดบ้านเกิดหาในเน็ตไว้ 3-4 ที่ แล้วก็โทรไปนัดที่ไปประจำเป็นทันตกรรมในมหาวิทยาลัยบอกว่าราคา 1500-4500 แล้วแต่ความยากง่าย นัดวันทำงานสุดท้ายของปีเลย พอวันไปหาจริงคุณหมอดันลา แล้วเราเพิ่งย้ายบ้านพยาบาลบอกว่าโทรไปไม่ติด ก็โทรไปบ้านเก่านี่นาจะติดได้ไง ก็เซ็งๆ แต่ด้วยแน่วแน่แล้วว่าต้องผ่าวันนี้ให้ได้ หาวันลางานยาวๆ แบบนี้ยาก จึงโทรไปหาสถานที่สำรองที่เหลือ จนเจอที่ที่ว่าง บอกว่าคุณหมอว่างเพราะคนไข้ที่นัดไว้ไม่มาไปเที่ยวปีใหม่ ก็คิดว่าตรงข้ามกับที่ที่เรานัดไว้เลย เพราะอันนี้เห็นคนไข้หลายรายเดินออกมาเหมือนเราบอกว่าคุณหมอไปเที่ยวปีใหม่แล้ว แต่ก็เป็นความโชคดีของเราเพราะพอคุณหมอเอ้กเรย์ฟันดู บอกว่าค่าผ่า 700 บาท เองถึงกับอึ้ง เพราะที่หาข้อมูลมา ที่ที่เรานัดที่แรกนั้นถูกที่สุด เพราะถ้าไปคลินิกก็จะ 3000-6000 แหนะ ก็เลยถามคุณหมอว่าทำไมถูกกว่าที่หาข้อมูลมา คุณหมอบอกว่าเราเป็นสถานพยาบาลสาขาของโรงพยาบาลรัฐ เพิ่งรู้เหมือนกัน

ผ่าฟันคุดเรียกว่าหั่นฟันคุดดีกว่า
  • ขั้นแรก ฉีดยาชา คุณหมอฉีดยาชาไม่เจ็บเลย ดีใจมาก ทั้งๆที่ในความทรงจำวัยเด็กเราการฉีดยาชามันช่างเจ็บปวดยิ่งนัก หรือเพราะเราไม่เด็กอีกต่อไปแล้ว 
  • มีดกรีด คุณหมอถามว่าชารึยังๆ เราก็บอกไม่แน่ใจ เอหรือชาแล้วน้อ คุณหมอจึงบอกว่าเดี๋ยวทดสอบชาให้ แล้วคุณหมดก็เอามีดกรีดจึ้กเลย  ไม่รู้สึกอะไรจริงๆด้วยแฮะ 
  • หั่นๆ เนื่องจากฟันคุดนอนสวยงาม ตั้งฉากแถมเบียดเสียดกับฟันที่มีอยู่เลย ก็ตามที่อ่านในเนตมาเลย คุณหมอต้องทำการหั่นฟันออกเป็นชิ้นๆ ก่อนด้วยเครื่องกรอ ซึ่งอย่านึกว่าธรรมกดา มันสะเทือนมาก มากกว่าที่คิดไว้ เรานี่นอนจับมือกันแน่น แน่นเสร็จก็ดิ้นไปดิ้นมาช้าๆ บนเตียง เหมือนปลาเลยค่ะ จนคุณหมอถามว่าเจ็บหรือ เราบอกว่าไม่ได้เจ็บแต่กลัวมากกว่า คุณหมอเลยให้ดิ้นไป ส่วนตัวเราว่าช่วยได้นะ ก็ดิ้นช้าๆ แบบนั้นไปจนคุณหมอหั่นฟันหมดเลย ตอนคุณหมอบอกว่าเอาตัวฟันออกเสร็จแล้ว โล่งเลย แล้วคุณหมอก็บอกว่าเหลือราก โอ้วมีตัวฟันแล้วยังมีรากฟันอีก ก็ดิ้นต่อค่ะทีนี้ รากฟันนี้เหมือนยาก เพราะคุณหมอตะโกนบอกคนอื่นว่าขอเครื่องมือแคะรากฟันนี่ ได้ยินแล้วเรากลัวมากเลยค่ะ ดิ้นต่อไป  เพราะรากนี่เหมือนหั่นๆ แล้วคุณหมอยังพยายามบิดๆ ด้วยค่ะ พอคุณหมอบอกว่าเอารากออกหมดแล้ว จะเย็บแผล เรานี่โล่งจริงๆเลยค่ะ 
  • เย็บแผล เช่นเดียวกับตอนเอามีดกรีด ไม่รู้สึกอะไรซักนิดเดียวเลยค่ะ 
  • หลังผ่า คุณหมอให้ดูฟัน เห็นแต่ราก 2 ราก แหยะมันสุดๆ ตอนนั้นคิดว่ารากอะไรนี่กว่าจะเอาออกมาได้ก็แค่เล็กๆ 2 อัน แล้วคุณหมอก็เอาน้ำแข็งก้อนใหญ่ประมาณอุ้งมือใส่ถุงยามาให้บอกว่าให้ประคบซักพักจะได้ไม่บวม แล้วก็บรรยายการดูแลตัวเอง กัดสำลีไว้ 1 ชั่วโมง  1 อาทิตย์ก็ไปหาที่ตัดไหมที่กรุงเทพซะ คุณหมอเอาใจใส่มากๆ 
  • ยา คุณหมอให้ยาพาราเซ็ตกับอะม็อกซี่มา แต่รู้สึกว่าไม่น่าจะเอาอยู่เลยแวะร้านยาซื้อไอบูแก้ปวดมากมาสำรองไว้  
ฟันคุดออกไปแล้วเหลือไว้แต่แผล

หลังจากผ่าฟันคุดเสร็จแล้วก็ถามคุณหมอว่าอีกนานไม้ค่ะ กว่าจะมาผ่าอีกข้างได้ คุณหมอบอกว่ารอยาชาหมดก่อนเถอะค่อยตัดสินใจว่าจะมาผ่าอีกข้างรึเปล่า เราก็เริ่มรู้สึกกล้วว่ายาชาหมดต้องตายแน่ๆ แล้วคุณหมอก็บอกว่าแต่ยังไงก็ควรผ่าก่อน 30 จะผ่าง่ายกว่า แล้วก็บอกว่าแต่หลัง 30 ก็ได้แค่ จะผ่ายากกว่าแล้วกระดูกจะสร้างช้ากว่า เราก็แอบงงเล็กน้อย ก็กลับมาอ่านในเนตที่บ้านก็เข้าใจ

กลับบ้านปุ้บกินยาทั้งยาแก้อักเสบและยาแก้ปวดมากก่อนเลย จากที่คุณหมอขู่ไว้ก็เดาๆ ได้ว่าคงจะเจ็บมาก คุณเพื่อนบอกให้รีบนอน เราก็ยังไม่เชื่่อดูละครหลังข่าวจนจบถึงนอน พอจะนอนเท่านั้นแหละ ยาชาหมดฤทธิ์พอดี นอนปวดอยู่นานกว่าจะหลับแม้ยาแก้ปวดไอบูก็เอาไม่อยู่
  • วันแรก กินน้ำต้มข้าวไป 2 ช้อนกับ นม 1 กล่อง น้ำเกลือ 1 ซอง 
  • วันที่ 2 เหมือนวันแรก ไม่มีแรง นอนเป็นผักเลย โชคดีที่เป็นวันหยุด
  • วันที่ 3 เริ่มกินเนื้อไก่อบนุ่มๆได้ โดยใช้ฟันหน้าเคี้ยวๆ เอา
  • วันที่ 4 กินข้าวไก่ทอดโดยเคี้ยวอีกข้างได้ แต่ก็ยังไม่กล้าอ้าปากกว้าง
  • วันที่ 5 เหมือนวันที่ 4 แต่ก็กินได้น้อย
ไม่รู้คนอื่นเป็นไม้ แต่เราไม่กล้าอ้าปากกว้างๆ ดูแผลเลยกลัวแผลฉีก แล้วก็ตอนเช้าจะเจ็บแผลมากกว่าตอนอื่นๆ ผ่านมา 5 วันต้องกินไอบูตลอด ก็ลองไม่กินยาดูว่าจะอยู่ได้ไม้ ผลคืออยู่ไม่ได้และกินอะไรไม่ได้เลยถ้าไม่มียาแก้ปวด เพราะเวลากลืนแม้แต่น้ำก็เถอะ มันเหมือนลิ้นไปโดนฟัน เจ็บแผลมาก ต้องกินยาแก้ปวดให้หายเจ็บแผลแล้วถึงกินอะไรได้ จนจะเป็นโรคกระเพาะแล้วเพราะบางทีกินยาตอนท้องว่างยาก็กัดกระเพาะ แต่ทำไงได้มันเจ็บมาก 

แล้วฟันคุดอีกข้าง

คงต้องใช้เวลาทำไจอีก แต่ก็คงทำใจนานไม่ได้เพราะมันก็โผล่มาแล้วเหมือนกัน แต่ข้างนี้ไม่ทำให้มีกลิ่นปากเหมือนข้างที่ผ่าออก มันอาจจะยังอยู่ได้อีกพักใหญ่ก็ได้

Update หลังผ่านไป 1 เดือน

ตัดไหมแล้ว ไม่เจ็บเลย สิ่งที่ทำทุกวันคือแปรงฟันทุกหลังมื้ออาหาร รักษาความสะอาดมากๆ บ้วนปากแรงๆ เพราะกลัวมีอะไรไปติด แล้วก็ชอบมีอะไรไปติดด้วยซิ ตอนนี้กำลังทำใจและหาเวลาไปผ่าอีกซี่

_______________________________________________________________________________
ผ่าฟันคุดอีกข้าง 

ไปผ่าที่เดิมด้วยความงกเงิน แต่เป็นหมออีกคน เนื่องจากพยายามนัดหมอคนเดิมแต่คุณหมอดันไปเมืองนอกทั้งสงกรานต์ ไอ้เราก็ต้องวันหยุดยาวถึงจะผ่าได้ เลยจำเป็นต้องผ่ากับหมออีกคน ปรากฏว่าต่างกันกับครั้งแรกโดยสิ้นเชิง
  • ขั้นแรก ฉีดยาชา คุณหมอฉีดยาชาเจ็บ เหมือนสมัยความทรงจำในวัยเด็กเลย 
  • มีดกรีด รู้สึกว่าหมอเอามีดกรีดกระทบฟันคุดเลย 
  • หั่นๆ และดึงๆ คุณหมอคนนี้เหมือนจะโปรกว่าคนที่แล้ว ด้วยความว่าคุณหมอกรออย่างรวดเร็ว และดึงๆ แบบว่าเร็วมาก และเจ็บมาก แม้ฉีดยาชา ยกมือบอกหมอว่าเจ็บ หมอบอกว่าฟันมันติดกระดูก ก็บิดๆ เจ็บร้าวสุดๆ แต่ก็แป็บเดียว ไม่ถึง 15 นาที พอหมอบอกว่า ฟันออกหมดแล้ว ยกมือดีใจเลย 
  • เย็บแผล ไม่รู้สึกอะไรซักนิดเดียว 
  • หลังผ่า  เป็นลมตั้งแต่ลุกออกจากเตียง นอนที่เตียงดมยาดมต่ออีก 15 นาที ลุกมาจ่ายตังค์ ก็เป็นลมหน้าช่องจ่ายตังค์อีกรอบ ไปนอนเตียงอีก 15 นาที ถึงลุกไหว 
  • ยา คุณหมอให้ยาพาราเซ็ตกับอะม็อกซี่มา แต่ไปซื้อยาแก้ปวดร้านยามาเพิ่มได้ celebrex มา วันแรกกินทั้งพาราเซ็ต ทั้ง Celebrex พออยู่ได้ มีปวดตึงบ้าง
  • ตัดไหม ผ่านไป 7 วันไปตัดไหม บอกคุณหมอว่ายังไม่กล้าอ้าปากกว้าง หมอบอกว่าให้พยายามอ้าอ้า ให้เอานิ้วตั้งได้ 3 นิ้ว ลองดูก็ทำได้แฮะ คุณหมอตัดไหม ครั้งนี้หมอบอกว่าไหมอยู่ไกล้ซอกฟัน แล้วต้องดึง ก็ตึงๆ นิดนึง แต่ไม่ถึงกับเจ็บ และเนื่องจากครั้งนี้ตัดไหนที่เดี่ยวกับที่ผ่าที่แรก ไม่เสียค่าตัดไหมด้วยค่ะ ดีใจมากมาย เพราะครั้งที่แล้ว กลับกรุงเทพก่อนครบ 7 วัน ต้องไปตัดไหมที่คลินิคเสียไป 200 บาท
_______________________________________________________________________________